Home
Databases
ฐานข้อมูลทรัพยากรห้องสมุด
Inhouse Databases
ฐานข้อมูลดรรชนีบทความวารสาร และเอกสาร
ฐานข้อมูลสหบรรณานุกรมห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาไทย (UCTAL)
ฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ และงานวิจัย มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
สื่อการเรียนการสอน ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอาเซียน (ASEAN Community)
e-Journals
e-Books
e-Theses
e-News
Trial Databases
Services
Contents
News & Updates
ข่าวประชาสัมพันธ์
สารสนเทศน่ารู้
Event Calendar
Ask a Librarian
About Us
ข้อมูลห้องสมุดวิทยาเขตบางนา
Contact
โครงสร้างการบริหารงาน
การบริหารงานระบบคุณภาพ ISO 9001
Calendar
RU Library
Home
Databases
ฐานข้อมูลทรัพยากรห้องสมุด
Inhouse Databases
ฐานข้อมูลดรรชนีบทความวารสาร และเอกสาร
ฐานข้อมูลสหบรรณานุกรมห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาไทย (UCTAL)
ฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ และงานวิจัย มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
สื่อการเรียนการสอน ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอาเซียน (ASEAN Community)
e-Journals
e-Books
e-Theses
e-News
Trial Databases
Services
Contents
News & Updates
ข่าวประชาสัมพันธ์
สารสนเทศน่ารู้
Event Calendar
Ask a Librarian
About Us
ข้อมูลห้องสมุดวิทยาเขตบางนา
Contact
โครงสร้างการบริหารงาน
การบริหารงานระบบคุณภาพ ISO 9001
Caption align here
Blog Full Left Sidebar With Frame
ไทยซอส รสชาติแห่งภูมิปัญญา : น้ำปู เอกลักษณ์รสชาติแห่งล้านนา
29/04/2022
By
bangna
information
0
ในช่วงฤดูฝนเมื่อต้นข้าวเริ่มแทงยอดอ่อน ในช่วงประมาณเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม ปูนาจะพากันออกมา ตามท้องนากันอย่างชุกชุม ชาวบ้านในภาคเหนือต่างนิยมจับมาบริโภค เมื่อจับได้ในปริมาณมากจนรับประทานไม่ทัน จึงได้มีการนำมาแปรรูปถนอมอาหารทำเป็นเครื่องปรุงรส ที่เรียกกันว่า “น้ำปู” หรือ “น้ำปู๋” ตามการออกเสียงใน ภาษาเหนือ โดยหน้าตาของน้ำปูจะคล้ายกะปิแต่มีสีดำ ซึ่งมีกลิ่นและรสชาติที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ กระบวนการสำคัญในการผลิตน้ำปูคือ ล้าง ปั่น กรอง หมัก และเคี่ยว แม้จะใช้เวลาในการผลิตไม่นานเมื่อเทียบกับการผลิตน้ำปลา กะปิ บูดู และปลาร้า เนื่องจากน้ำปูไม่ต้องใช้เวลาในการหมักที่ยาวนาน แต่ก็ต้องใช้ความอดทน ในแต่ละขั้นตอนในกระบวนการผลิต เริ่มตั้งแต่การออกไปจับปูนากลางแดดร้อน ๆ ซึ่งควรเลือกวันที่แดดจัด เพราะ ยิ่งแดดร้อนปูนาจะยิ่งออกมามาก สามารถใช้ปูนาได้ทุกขนาด แต่ขนาดที่เหมาะกับการผลิตน้ำปูควรมีขนาดกลาง ๆ ซึ่งให้กากน้อยและให้ความหอมมันกว่าปูตัวใหญ่และปูที่ตัวเล็ก หากต้องการผลิตน้ำปูให้ได้ 1 กิโลกรัม ต้องใช้ปู 7 – 10 กิโลกรัม ขั้นตอนการผลิตจะเริ่มจาก 1. ล้างปูให้สะอาด โดยแช่น้ำทิ้งสักพักไว้ก่อนทำความสะอาดให้ปราศจากโคลนและสิ่งปลอมปน ต้องใช้ปูที่มีชีวิตเท่านั้นในการผลิต หากเป็นปูที่ตายมาแล้วจะทำให้น้ำปูที่ได้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์และเก็บได้ไม่นานนัก 2. นำตะไคร้ หรือใบตะไคร้ ใบข่า ใบขมิ้น (บางสูตรอาจเพิ่มใบมะกอกป่า และใบฝรั่ง) นำมาล้างและหั่นซอยไว้ หากใช้ปู 3 กิโลกรัม จะใช้ใบตะไคร้ประมาณ 2 ต้น และสมุนไพรอื่นที่หั่นรวมอีกประมาณ 1 ถ้วย...
Read More
ไทยซอส รสชาติแห่งภูมิปัญญา : บูดู มนตรารสพื้นถิ่นใต้
28/04/2022
By
bangna
information
0
อาชีพประมงในวิถีชีวิตของคนไทยในภาคใต้ริมฝั่งทะเล นับว่าเป็นอาชีพหลักสำคัญอันหนึ่งของประชากรไทย การทำประมงมักมีการนำวัตถุดิบหรือนำผลผลิตที่หาได้มาแปรรูปเพื่อเป็นการถนอมอาหาร เช่น การนำปลาที่เหลือจากการบริโภคและจำหน่าย มาผ่านขั้นตอนกระบวนการถนอมอาหารออกมาเป็น น้ำบูดู ซึ่งเป็นน้ำปรุงรสเค็มสำหรับประกอบอาหาร อันให้รสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ จนกระทั่งกลายผลิตภัณฑ์แห่งวัฒนธรรมทางอาหารประเภทหนึ่งโดยเฉพาะในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ คำว่า บูดู ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนถึงที่มาของคำ แต่พอจะรวบรวมถึงความเป็นไปได้จากหลายทาง คือ 1. อาจมาจากชื่อของอุปกรณ์จับปลาตัวใหญ่ที่ชื่อ “บูบู๊” ในภาษาท้องถิ่น ปลาตัวใหญ่นี้เรียก “ปลาฆอ” แต่ต่อมามีการเปลี่ยนเป็นใช้ปลาตัวเล็กเช่นปลากะตัก และคำที่ใช้เรียกออกเสียงเป็น บูดู 2. บูดู เป็นคำที่มาจากภาษายาวี หรือมลายู แต่ไม่สามารถระบุถึงความหมายได้ 3. บูดู มาจากภาษาอินโดนิเซีย ที่หมายถึง ปลาหมักดอง จากเรื่องราวประวัติศาสตร์การอพยพของชาวเมืองฮาวอ อินโดนิเซีย จากการถูกรุกราน ระหว่างรอนแรมได้มีการนำปลาที่จับได้มาหมักดองเพื่อเป็นเสบียง และเมื่อขึ้นฝั่ง ณ ที่ตำบล ปะเสยะวอ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี การผลิตปลาหมักดองนี้จึงได้แพร่หลายในพื้นที่ น้ำบูดูจึงได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของอำเภอสายบุรี มาแต่บัดนั้น ในการผลิตน้ำบูดูจะใช้วัตถุดิบหลักเพียงสองอย่าง คือ ปลา และ เกลือ โดยนิยมใช้ปลา 2 ส่วนต่อเกลือ 1 ส่วน โดยนำมาเคล้ากันแล้วหมักซึ่งคล้ายกับการทำน้ำปลา มีการใช้เกลือทับหน้าเหมือนกัน ใช้ระยะเวลาหมักใกล้เคียงกันคือ ประมาณ 1 ปี โดยไม่มีการเปิดภาชนะหมัก น้ำบูดูจะมีสีน้ำตาลขุ่นข้นกว่าน้ำปลาและมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากน้ำปลา เนื่องด้วยการผลิตน้ำบูดูจะไม่มีขั้นตอนในการกรองหลายขั้นเหมือนการทำน้ำปลา เมื่อหมักครบตำกำหนดเวลาแล้วใช้แกลลอนที่เปิดหัวเปิดท้ายกดลงไปในถังหมัก แล้วใช้ภาชนะตักน้ำบูดูที่ไหลเข้ามาในแกลลอน น้ำบูดูส่วนบนแรก ๆ นี้...
Read More
ไทยซอส รสชาติแห่งภูมิปัญญา : กะปิ รสทิพย์ตำรับไทย
26/04/2022
By
bangna
information
0
กะปิ (shrimp paste/shrimp sauce) เครื่องปรุงรสที่นิยมไปทั่วในประเทศทางเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ ซึ่งอาจใช้วัตถุดิบหรือมีกรรมวิธีแตกต่างกันไปบ้างในแต่ละประเทศ อาทิ พม่า มาเลเซีย อินโดนีเซีย ลาว และโดยเฉพาะประเทศไทย อาจเนื่องด้วยมีลักษณะธรรมชาติทางภูมิศาสตร์ และการเป็นสังคมเกษตรกรรม จึงทำให้วิถีทางวัฒนธรรมมีความคล้ายกัน ชื่อของ กะปิ บางตำราสันนิษฐานว่ามาจากคำว่า “งาปิ๊” ในภาษาพม่าอันหมายถึงปลาหมัก สำหรับในประเทศไทย กะปิ นับได้ว่าเป็นหัวใจหลักสำคัญในการประกอบอาหารไม่ว่าจะเป็นน้ำพริก หรือในแกงต่าง ๆ ซึ่งหากมีกะปิผสมอยู่จะเป็นตัวช่วยชูรสชาติและกลิ่นของอาหารนั้นให้มีความหนัก เข้มข้น หอม และอร่อยอย่างมีเอกลักษณ์ วัตถุดิบในการทำกะปิจะใช้ได้ทั้งปลา กุ้ง และเคย (สัตว์น้ำในวงศ์พวกกุ้ง ลักษณะคล้ายกันมาก) กุ้งฝอยน้ำจืด สามารถแบ่งกะปิออกได้เป็น 2 ประเภทตามลักษณะของเนื้อกะปิ คือ กะปิเหลว (liquid kapi) ที่มีลักษณะเนื้อเหลว มีความข้นหนืดประมาณซอสมะเขือเทศ และกะปิแห้ง (dry kapi) มีลักษณะเนื้อหนึบ เหนียว แน่น ที่มักพบเห็นได้ตามท้องตลาดทั่วไปในบ้านเรา นอกจากแบ่งประเภทตามลักษณะเนื้อของกะปิแล้ว ยังสามารถ แบ่งตามคุณลักษณะที่นำไปประกอบเมนูต่าง ๆ ได้แก่ กะปิสำหรับตำน้ำพริก ที่มีความเข้มและเค็มกว่า และ กะปิสำหรับพริกแกง ที่เนื้อละเอียดกว่า นอกจากนี้ยังมีผู้ผลิตบางรายได้ผลิตกะปิหวาน เป็นกะปิแบบเนื้อหยาบที่มองเห็นเป็นเศษตัวกุ้งฝอยอัดแน่นอยู่ในตลับออกมาอีกด้วย กรรมวิธีการผลิตกะปิมีกระบวนการสำคัญคือการล้าง หมัก ตาก บด โดยใช้เกลือเป็นตัวหลักในการถนอมและคุมการย่อยสลายในการหมัก โดยวิธีการผลิตจะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น มีการใช้วัตถุดิบต่าง...
Read More
ไทยซอส รสชาติแห่งภูมิปัญญา : น้ำปลา รสแท้คู่ครัวไทย
25/04/2022
By
bangna
information
0
คนไทยแต่ครั้งอดีตนิยมใช้เกลือเป็นหลักในการปรุงรสอาหาร ต่อมาเมื่อได้มีการถนอมอาหารโดยนำสัตว์น้ำกับเกลือหมักเคล้ากัน เช่น ปลาร้า กะปิ และในระหว่างขั้นตอนการผลิตยังได้น้ำรสเค็มที่มาจากการหมักนั้น มาใช้ปรุงรสเค็มได้อีกโดยนำมาใช้ปรุงรสในลักษณะของน้ำปลา แต่จากแหล่งอ้างอิงถึงเรื่องราวประวัติความเป็นมาของการผลิตน้ำปลาในประเทศไทยนั้นมาจากชาวจีนที่เข้ามาประกอบอาชีพ เป็นผู้ริเริ่มผลิตและนำออกจำหน่ายโดยมักบรรจุลงไห มีการผนึกปากไหและมีตรายี่ห้อสินค้าสลักบนไหอย่างดี ซึ่งปัจจุบันไหน้ำปลาได้กลายเป็นของเก่าสะสมที่มีมูลค่าอยู่พอควร การทำน้ำปลาสามารถใช้ปลาทะเล เช่น ปลากะตัก ปลาหลังเขียว และปลาน้ำจืด เช่นปลาสร้อย ปลาซิว หรือใช้สัตว์อื่นแทนปลา เช่น หอย ปู กุ้ง โดยใช้เกลือเป็นส่วนประกอบหลัก แต่โดยทั่วไปปลากระตัก เป็นปลาที่นิยมนำมาผลิตน้ำปลา เราสามารถแบ่งประเภทของน้ำปลาได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. น้ำปลาแท้ คือน้ำปลา ที่ได้จากการหมักปลาตามกรรมวิธีผลิตน้ำปลา 2. น้ำปลาจากสัตว์อื่น คือน้ำปลาที่มีการใช้สัตว์อื่นในการหมักแทนการใช้ปลา โดยอาจมีน้ำปลาแท้ผสมอยู่หรือ ไม่มีก็ได้ 3. น้ำปลาผสม คือน้ำปลาที่มีการระเหยน้ำออกไป หรือน้ำปลาตามข้อ 1 และ 2 ที่มีการผสมสิ่งปรุงแต่งสี รสและกลิ่น โดยใช้สารที่ไม่เป็นอันตราย กรรมวิธีการผลิตน้ำปลา หลักขั้นตอนสำคัญคือการล้าง หมัก กรอง ซึ่งกรรมวิธีการผลิตทั่วไปจะเริ่มด้วย ๑. ล้างปลาให้สะอาดปราศจากสิ่งปลอมปน ๒. เคล้าปลาด้วยเกลือในอัตรา ปลา 2-3 ส่วน ต่อ เกลือทะเลชนิดเม็ด 1 ส่วน หมักในไหหรือโอ่งทึบแสง ๓....
Read More
ประวัติศาสตร์แมวมอง = A cat’s tale
19/04/2022
By
bangna
recommended book
0
ทาสแมว ที่เราได้ยินจนคุ้นหูเป็นคำเรียกแทนคนรักแมว วันนี้จะพาผู้อ่านเข้าไปในท่องโลกของเจ้าเหมียวหรือเจ้านายผู้น่ารักขี้อ้อนของเหล่าทาส หนังสือเล่มนี้จะดึงดูดผู้อ่านและบรรดาทาสแมวเข้าสู้โลกอีกใบ โดยมีบาบา แมวลายสลิด ที่จะเป็นผู้นำทางไปสู่ประวัติศาสตร์ในแต่ละยุคสมัยของเจ้าเหมียว ทั้งยุคขาวและยุคมืดของแมว บอกได้คำเดียวว่าแต่ละเรื่องที่บาบาจะพาเราไปท่องโลกประวัติศาสตร์ของแมวแต่ละตัวที่สำคัญต่อมนุษย์นั้นล้วนน่าสนใจและตื่นเต้น นอกจากหนังสือเล่มนี้จะน่าอ่านแล้วความน่าสนใจในอีกอย่างคือ ภาพสีสันทั้งเล่มชวนให้น่าอ่านและแมว บาบาที่แต่งชุดต่างๆประกอบเรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมา ความน่ารัก แสนรู้ ขี้เล่นของบาบาจำให้เพลิดเพลินกับเรื่องราวแบบไม้รู้ตัว ชื่อหนังสือ : ประวัติศาสตร์แมวมอง = A cat’s tale ชื่อผู้แต่ง : พอล คูดูนาริส, เขียน ; ภาณุ บุรุษรัตนพันธุ์, แปล. หมวดหมู่ : SF442.6 ค244 2564 อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : บริการทรัพยากรสารสนเทศทั่วไป ชั้น 2 ห้องสมุดวิทยาเขตบางนา
Read More
1
…
38
39
40
41
42
…
44
Text Widget
Nulla vitae elit libero, a pharetra augue. Nulla vitae elit libero, a pharetra augue. Nulla vitae elit libero, a pharetra augue. Donec sed odio dui. Etiam porta sem malesuada.
Recent News
เวลาเปิด-ปิด การให้บริการประจำเดือนกันยายน 2567
02/09/2024
By
bangna
ปิดให้บริการวันที่ 10 – 12 สิงหาคม 2567
09/08/2024
By
bangna
ฟรีวีซ่าไทย-China ไทยเที่ยวจีนไม่ต้องขอวีซ่า
09/08/2024
By
bangna
Tag Cloud
advertise
art
arttoy
Bangna RULibrary
cabybara
china
Design Thinking
e-book
information
kratom
pet
RedCrossFair
RUBookFair
RU Library Open House
S.E.A. Write
toy
valentine
What's in Bangna library?
กระท่อม
กิจกรรม
กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน
คาปิบาร่า
งานกาชาด
จิตวิทยา
ฐานข้อมูล
ดาราศาสตร์
ตอบคำถาม
ท่องเที่ยว
ปรีดีพนมยงค์
ปิดระบบ
ปิดให้บริการ
พลังบวก
มหาวิทยาลัยรามคำแหง
รับน้องใหม่
รับน้องใหม่หัวใจLibrary
วันสำคัญ
วันหยุด
สัตว์เลี้ยง
สำนักหอสมุดกลาง
หนังสือแนะนำ
ห้องสมุด
ห้องสมุดบางนา
ห้องสมุดวิทยาเขตบางนา
เขาช่องลม
เครื่องดื่ม