Know Us Better

About Us

ประวัติความเป็นมา

ในวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2527 ห้องสมุดมหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา ได้เปิดให้บริการ บริเวณชั้น 4 และชั้น 5 ของอาคารพระมาส (PRB) เป็นอาคารห้องสมุดชั่วคราว ปลายปี 2537 ย้ายมา ณ อาคารถาวร 4 ชั้น มีพื้นที่ 4,768 ตารางเมตร จุที่นั่งอ่านและบริการประมาณ 2,000 ที่นั่ง

ห้องสมุดมหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา สังกัดสำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นอาคาร 4 ชั้น อยู่ติดรั้วด้านประตูทางออกมหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตปัจฉิมสวัสดิ์ – สุวรรณนภาศรี (วิทยาเขตบางนา) ณ กม.ที่ 8 ถนนบางนา-ตราด แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร

ปัจจุบันสำนักหอสมุดกลางฯ มีการดำเนินงานในระบบเครือข่ายห้องสมุดอัตโนมัติ (RAMLINET: Ramkhamhaeng University Library Network) โดยใช้โปรแกรมระบบห้องสมุดอัตโนมัติ INNOPAC ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนเป็นโปรแกรมระบบห้องสมุดอัตโนมัติ Sierra เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2563 และเป็นสมาชิกโครงการเครือข่ายห้องสมุดในประเทศไทย (ThaiLIS) ที่ประกอบด้วยห้องสมุดสมาชิกจำนวน 75 แห่ง โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการพัฒนาและการใช้ทรัพยากรสารสนเทศห้องสมุดร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเชื่อมโยงกับเครือ ข่ายห้องสมุด และศูนย์สารสนเทศอื่นๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อช่วยให้นักศึกษา อาจารย์ ค้นหาและเลือกใช้ข่าวสารความรู้ จากทั่วทุกมุมโลกได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

อัตลักษณ์

สนับสนุนการผลิตบัณฑิตให้มีความรู้คู่คุณธรรม

เอกลักษณ์

การเป็นห้องสมุดเพื่อปวงชน

ค่านิยมองค์การ

บริการด้วยใจ (Service mind) ใฝ่คิดสร้างสรรค์ (Creativity) ยึดมั่นในคุณธรรม (Moral) ทำงานเป็นทีม (Teamwork)

วิสัยทัศน์ (Vision)

สำนักหอสมุดกลาง เป็นแหล่งค้นคว้าวิจัย สนับสนุนการเรียนการสอนที่มุ่งขยายโอกาสทางการศึกษา ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อพัฒนาคนให้พัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

ปณิธาน (Ambition)

มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพ ให้บริการทรัพยากรสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการผลิตบัณฑิตที่มีความรู้คู่คุณธรรมและมีจิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคม

พันธกิจ (Mission)

  1. จัดหา พัฒนา วิเคราะห์ และบริการทรัพยากรสารสนเทศด้วยความเสมอภาค
  2. พัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและยกระดับการบริหารจัดการและการให้บริการ เพื่อมุ่งสู่ประชาคมอาเซียน
  3. ส่งเสริม สนับสนุนคุณภาพชีวิต สังคม มาตรฐานการศึกษา การบริการทางวิชาการ และทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม อย่างยั่งยืน